การมีบ้านและที่อยู่ที่สะดวกสบายเป็นความปรารถนาของหลายคน บ้านเป็นที่สะอาดและเรียบร้อยที่สามารถสร้างความสุขในครอบครัวและชีวิตของเรา แต่บ้านร้าวและสภาพบ้านที่เสื่อมสภาพอาจก่อให้เรารู้สึกไม่สบาย การแก้บ้านร้าวเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาคุณภาพของชีวิตในบ้าน ในบทความนี้เราจะสอนวิธีการแก้บ้านร้าวด้วยตนเองให้กลับมาสดใหม่และสะอาดในทุกเดือน โดยเริ่มจากการวางแผน การค้นหาช่างและการรับรองอนุญาต จนถึงการเริ่มงาน การควบคุมคุณภาพ และการสำรวจงานเมื่อเสร็จสิ้น โดยท้าทายทุกขั้นตอนและที่สำคัญคือ การประเมินและรับรู้เมื่อการแก้บ้านสมบูรณ์ หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะกำจัดบ้านร้าวและทำให้มันกลับมาสวยสะอาดและสบายอีกครั้ง และขั้นตอนที่ครบถ้วนในการแก้บ้านร้าวของคุณ!
ซ่อมผนังรอยร้าวด้วยตัวเอง ควรเลือกใช้วัสดุใดให้เหมาะกับรอยแตกร้าวอย่างไร
การซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเองสามารถทำได้โดยตามขั้นตอนและการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ดี โดยปกติ การซ่อมผนังร้าวควรใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและสามารถภูมิใจทนต่อแรงกระแทกและน้ำ เพื่อปรับแต่งรอยแตกร้าวในผนัง นี่คือวัสดุที่คุณสามารถใช้
- ปูนซีเมนต์: ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุที่สามารถใช้ในการทาบรอยแตกร้าวในผนังได้ดี คุณสามารถผสมปูนซีเมนต์กับน้ำเพื่อสร้างเมล็ดปูนและใช้เมล็ดปูนนี้ในการปิดรอยแตกร้าว. หลังจากที่ปูนซีเมนต์แห้งแล้ว คุณสามารถทาสีหรือสีหรือทาเคมีเคิลเพื่อทำให้ผนังมีลักษณะเป็นสีเดียวกันกับผนังเดิม
- กาวยาง: กาวยางเป็นวัสดุทนน้ำและเริ่มแตกร้าวได้ดีในรอยแตกร้าวที่มีความกว้างเล็ก คุณสามารถใช้กาวยางเพื่อปิดรอยแตกร้าวและป้องกันน้ำเข้าสู่ผนัง
- กาวซิลิโคน: กาวซิลิโคนเหมาะสำหรับการซ่อมรอยแตกร้าวที่เกิดบนผนังหรือพื้นที่ที่ต้องมีการยืดหดเล็กน้อย เช่น บริเวณระหว่างห้องน้ำและอ่างอาบน้ำ กาวซิลิโคนทนต่อน้ำและมีความยืดหยุ่น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของผนัง
- สีโป๊ว: สีโป๊วเหมาะสำหรับการซ่อมรอยแตกร้าวในผนังที่ทนต่อแรงกระแทกและแรงดัน มันทึบแข็งเร็วและเมื่อใช้ได้ถูกต้องจะทำให้รอยแตกร้าวหายไปอย่างถาวร
- แผ่นสเตนเลส (Stainless Steel Sheets): แผ่นสเตนเลสสามารถใช้ในกรณีที่รอยแตกร้าวในผนังมีความกว้างมาก คุณสามารถวางแผ่นสเตนเลสที่รอยแตกร้าวและติดกับผนังโดยใช้สกรูหรือสลักคาด แผ่นสเตนเลสนี้จะป้องกันน้ำเข้าสู่รอยแตกร้าวและให้ความแข็งแรง
การแก้บ้านร้าวหรือการรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่สามารถทำได้โดยตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- วางแผน:
- กำหนดวัตถุประสงค์ของการรีโนเวทบ้านให้ชัดเจน เช่น การปรับปรุงห้องครัว, ห้องน้ำ, หรือการปรับปรุงทั้งบ้าน
- กำหนดงบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้สำหรับโครงการนี้
- หาช่างและผู้รับเหมา:
- หาช่างที่มีความเชี่ยวชาญในงานที่คุณต้องการ
- ขอใบเสนอราคาจากหลายผู้รับเหมาเพื่อเปรียบเทียบราคาและบริการ
- ขออนุญาต:
- ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้านและขออนุญาตที่จำเป็นจากหน่วยงานท้องถิ่นหรือเทศบาล
- จัดการงบประมาณ:
- จัดการงบประมาณและติดตามค่าใช้จ่ายของโครงการอย่างเข้มงวด
- เริ่มงาน:
- เริ่มดำเนินการโครงการตามแผนและรอยตามการตรวจสอบความคืบหน้า
- ควบคุมคุณภาพ:
- ตรวจสอบงานของช่างเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติตามมาตรฐานคุณภาพ
- การสำรวจการงาน:
- ตรวจสอบงานเมื่อเสร็จสิ้นเพื่อตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดหรืองานที่ต้องปรับปรุง
- สำเร็จโครงการ:
- สมบูรณ์งานตามแผน และให้ผู้รับเหมาทำงานปิดโครงการและรับชำระเงินตามข้อตกลง
- ทำความสะอาดและจัดการ:
- ทำความสะอาดบ้านและจัดการเพื่อให้บ้านพร้อมใช้งาน
- สรุปและตรวจสอบ:
- ตรวจสอบว่างานรีโนเวทบ้านที่ทำสมบูรณ์และตรงตามความต้องการของคุณ
- รับการประเมิน:
- หากมีการปรับปรุงหรือการเสริมเติม ให้ช่างแก้ไขก่อนที่โครงการจะเสร็จสมบูรณ์
- รับรู้และประเมิน:
- รับรู้และประเมินโครงการรีโนเวทบ้านเพื่อดำเนินการในอนาคต
- รายงานภายหลัง:
- สรุปงานและทำรายงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากมีข้อพิจารณาหรือปัญหา
สรุป
ไม่ว่าเราจะซ่อมผนังด้วยตัวหรือช่างเราควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับรอยแตกร้าวที่เรากำลังจะซ่อมแซม โดยคำแนะนำคือให้ความสำคัญกับความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทกและเมื่อคิดจะซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเองในบ้านของคุณหรือจ้างช่าง เราอาจจะต้องให้เวลาอย่าเร่งรีบและระมัดระวังตลอดระยะเวลาในการทำเพื่อให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัยสำหรับครอบครัวของเรา
- รีวิว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Electrolux รุ่น BO78SD สีดำ - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว เตาแก๊ส DENPA เตาแก๊สหน้ากระจก สีดำ 2 หัว - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว ที่นอนแคมป์ปิ้ง Cl เป่าลมพองอัตโนมัติ ท่องเที่ยวแบบพกพา - มีนาคม 29, 2024