ความชื้นถือเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะหากภายในที่พักอาศัยของเรามีความชื้นมากจนเกินไป อาจจะส่งผลกระทบมากมาย เช่น เชื้อรา มีกลิ่นอับชื้น และคุณจะไม่รู้สึกสบายตัว เป็นต้น รวมถึงประเทศไทยมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และเมื่อถึงฤดูร้อน คุณจะรู้สึกร้อนอบอ้าว เหนียวตัว ทำให้ “เครื่องดูดความชื้น” เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้
โดยนำมาใช้งานควบคู่กับ ‘เครื่องฟอกอากาศ กรอง PM2.5, เครื่องปรับอากาศ, พัดลม’ เป็นต้น เพื่อทำให้อากาศภายในบ้านหรือที่พัก มีความบริสุทธิ์มากที่สุด อีกทั้งคลายความร้อนได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้บทความของเราจะมาแนะนำรีวิว 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ลดกลิ่นอับชื้น มาติดตามพร้อม ๆ กันเลย
เครื่องดูดความชื้นคืออะไร
สำหรับใครหลาย ๆ คนที่กำลังสงสัยว่า เครื่องดูดความชื้นคืออะไร? จริง ๆ แล้วเครื่องดูดความชื้นมีหลักการทำงานคล้ายกับ เครื่องปรับอากาศ โดยจะลดความชื้นผ่านตัวแผงคอยล์เย็น ช่วยทำให้ความชื้นโดยรอบกลายเป็นหยดน้ำ และจะปล่อยอากาศแบบแห้งเข้ามาแทนที่ จากนั้นจะกักเก็บความชื้นไว้ภายในถังน้ำ แล้วจึงนำไปเททิ้งหรือระบายลงท่อน้ำทิ้งนั่นเอง
ประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้น
- ลดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา: เครื่องดูดความชื้นจะปรับค่าความชื้นโดยรอบให้มีความเหมาะสม ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้หมดไป โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้
- ลดการเกิดฝุ่นละออง: หากความชื้นภายในอากาศสูง อาจส่งผลอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยจะรู้สึกอาการแสบหน้าอก ไอ หายใจลำบาก หรืออาการแพ้ ซึ่งการใช้เครื่องดูดความชื้นภายในบ้านช่วยลดความชื้นในอากาศ ทำให้สภาพทางเดินหายใจดีขึ้นและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัยในบ้าน
- ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์: เครื่องลดความชื้น จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในบ้านของคุณ รวมถึงยังช่วยลดกลิ่นอับชื้นและเหม็นเน่าได้เป็นอย่างดี
- ลดการใช้พลังงานของอุปกรณ์ทำความเย็น: เครื่องดูดความชื้น จะช่วยรักษาความชื้นในระดับที่เหมาะสมภายในบ้าน ทำให้เครื่องทำความเย็นต่าง ๆ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องทำงานหนัก เป็นการประหยัดพลังงานได้ดีเลยทีเดียว
พิจารณาเลือกซื้อ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ตรงกับความต้องการมากที่สุด
1. พิจารณาจากขนาดของพื้นที่
สำหรับการพิจารณาในเรื่องแรก คือ ขนาดพื้นที่ เพราะบ้านของแต่ละคน จะมีพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน เป็นต้น ซึ่งเครื่องดูดความชื้นเอง ก็จะมีขนาดพื้นที่ที่รองรับแตกต่างกันออกไป โดยเราขอแนะนำเครื่องดูดความชื้นที่รองรับขนาดพื้นที่ 20 ตารางเมตร และไม่เกิน 50 ตารางเมตร เพราะเป็นขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน ไม่สิ้นเปลืองพลังงานจนเกินไป
2. พิจารณาจากกำลังไฟฟ้า
กำลังไฟฟ้าของเครื่องดูดความชื้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่อง โดยเราขอแนะนำควรเลือกเครื่องดูดความชื้น ที่มีกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 150W สามารถเปิดใช้งานได้เป็นเวลานาน โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน และเป็นกำลังไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการดูดความชื้นได้เหมาะสมในแต่ละวันเช่นกัน
3. พิจารณาจากความจุของถังน้ำ
พิจารณาข้อสุดท้าย คือ ความจุของถังน้ำ ซึ่งหากคุณมีพื้นที่ห้องโดยประมาณ 20-30 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีความจุของถังน้ำ 2-3 ลิตร เพราะสามารถดูดความชื้นได้เกิน 10 ลิตรต่อวัน เพียงพอต่อการใช้งาน และช่วยรักษาระดับความชื้นได้เหมาะสม ไม่รู้สึกอึดอัดและอาการเหนียวตัวอย่างแน่นอน
รีวิวแนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหน ดูดดี ลดกลิ่นอับชื้น
1. เครื่องดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier
เรามาเริ่มต้นรีวิวแนะเครื่องดูดความชื้นอันดับแรกกับ HAFELE Dehumidifier ราคา 2,850 บาท ดีไซน์สีขาวทันสมัย รูปทรงสวยงาม ขนาดค่อนข้างกะทัดรัด น้ำหนักเครื่องเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น และขนาดความจุถังเก็บน้ำสูงสุด 2 ลิตร ลดความชื้นต่อวันได้ 750 เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร เช่น ห้องนอน, โรงแรม, โรงพยาบาล, หรือสำนักงาน เป็นต้น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานอยู่ที่ 5-32 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังใช้งานเครื่องได้ง่าย ๆ ด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวบนตัวเครื่อง พร้อมกับไฟบอกสถานะการทำงาน และระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ช่วยลดกลิ่นอับชื้นและกลิ่นเหม็นได้เป็นอย่างดี
| ยี่ห้อ/รุ่น | HAFELE Dehumidifier |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 20 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | 45W |
| ความจุถังน้ำ | 2 ลิตร |
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความทันสมัย สวยงาม ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป วางมุมไหนของห้องก็ได้
- เสียงการทำงานค่อนข้างเงียบ นำไปใช้ในห้องนอน และไม่รบกวนการนอนของคุณ
- ระบบควบคุมใช้งานสะดวก ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มเดียวบนตัวเครื่องเท่านั้น
- มีไฟแสดงสถานะการทำงาน และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
- ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในห้องขนาดใหญ่ เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น เป็นต้น
- มีฟังก์ชันในการใช้งานน้อย
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
2. เครื่องดูดความชื้น SHANBEN 12L
เครื่องดูดความชื้น SHANBEN 12L ราคา 3,890 บาท มีดีไซน์ค่อนข้างหรูหรา สวยงาม น่าใช้งาน สามารถวางตรงไหนก็ได้ภายในบ้านและพื้นที่ที่ต้องการดูดความชื้น เพราะรองรับขอบเขตการใช้งานที่กว้างถึง 60 ตารางเมตร ฟังก์ชันภายในเยอะพอสมควร มีทั้งการตั้งเวลา จดจำการตั้งค่าก่อนหน้า เมื่อไฟตกสามารถทำงานได้ทันที หรือแม้กระทั่งการควบคุมระยะไกลผ่าน Wi-Fi นอกจากนี้เสียงการทำงานของตัวเครื่องเงียบ สามารถเปิดใช้ขณะนอนหลับได้ ซึ่งตัวเครื่องจะช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นภายในห้องนอน นอนหลับสบาย อีกทั้งความจุถังเก็บน้ำ 2.5 ลิตร เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
| ยี่ห้อ/รุ่น | SHANBEN 12L |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 60 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | 185W |
| ความจุถังน้ำ | 2.5 ลิตร |
- ตัวเครื่องดีไซน์ทันสมัย สวยงาม และใต้เครื่องมีระบบล้อลากได้ 360 องศา ทำให้เคลื่อนย้ายนำไปใช้งานได้ง่าย ๆ
- รองรับขนาดพื้นที่ได้กว้างถึง 60 ตารางเมตร ช่วยให้บ้านของคุณ ไม่มีกลิ่นอับชื้น และไร้ความชื้น
- มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ตั้งเวลาการทำงานล่วงหน้า จดจำการตั้งค่า เป็นต้น
- เสียงการทำงานค่อนข้างเงียบ นำไปใช้งานภายในห้องนอนได้ โดยที่ไม่รบกวนการนอน
- ตัวเครื่องไม่มีเมนูภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย ต้องใช้คู่มือควบคู่ขณะใช้งาน
- มีกำลังไฟ 185W หากเปิดข้ามวัน อาจจะสิ้นเปลืองพลังงานพอสมควร
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
3. เครื่องดูดความชื้น LG รุ่น MD19GQGA1.ATH
เครื่องดูดความชื้น LG รุ่น MD19GQGA1.ATH ราคา 14,580 บาท ดีไซน์หรูหรา ล้ำสมัย ดูดความชื้นได้เป็นวงกว้าง สามารถใช้งานได้กับห้องขนาด 30 ตารางเมตร สำหรับฟังก์ชันตัวเครื่องเรียกได้ว่าจัดเต็ม คุ้มค่ากับราคา ทั้ง Compressor Dual Inverter ปรับการทำงานตามระดับความชื้นในอากาศอัตโนมัติ พร้อมกับช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงช่วยลดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 30 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้มีถังน้ำความจุขนาด 5.3 ลิตร ทำให้ใช้งานได้นาน ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี LG ThinQ™ ควบคุมสั่งการทำงานผ่านแอพในสมาร์ทโฟน และยังมีฟังก์ชันโหมดอบแห้งหรือเป่าแห้ง นำไปใช้เป่ารองเท้าให้แห้งและลดกลิ่นอับชื้นได้อีกด้วย
| ยี่ห้อ/รุ่น | LG รุ่น MD19GQGA1.ATH |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 30 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | ไม่ระบุ |
| ความจุถังน้ำ | 5.3 ลิตร |
- ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม มีความหรูหรา สามารถติดตั้งได้ตามมุมห้องที่มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร และมีถังเก็บน้ำ3 ลิตร ใช้งานได้นาน
- ระบบการทำงานแบบ Inverter ปรับการทำงานตามความชื้นในอากาศ และประหยัดพลังงาน
- ฟังก์ชันครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ตั้งเวลาเปิด-ปิด สั่งการทำงานผ่านแอปฯ เป็นต้น
- รองรับการดูดความชื้นได้มากถึง 30 ลิตรต่อวัน
- ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ หากกักเก็บความชื้นได้เต็ม 30 ลิตร
- ราคาค่อนข้างสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
4. เครื่องดูดความชื้น Nanjiren
เครื่องดูดความชื้น Nanjiren ราคา 699 บาท มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องแบบมินิมอล ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัมเท่านั้น เคลื่อนย้ายสะดวกสบาย ใช้งานได้ดีในพื้นที่ 50 ตารางเมตร ควบคุมตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวบนตัวเครื่อง และการดูดความชื้นมีประสิทธิภาพ เพราะมีช่องลมด้านบนของตัวเครื่องหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถลดความชื้นได้ 3 ลิตรต่อวัน ลดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความจุของถังน้ำ 1.1 ลิตร สามารถถอดนำไปเททิ้งเองได้ง่าย ๆ
| ยี่ห้อ/รุ่น | Nanjiren |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 50 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | 30W |
| ความจุถังน้ำ | 1.1 ลิตร |
- ดีไซน์สวยงาม สไตล์มินิมอล ขนาดตัวเครื่องค่อนข้างเล็กกะทัดรัด รองรับพื้นที่ในการใช้งานกว้างถึง 50 ตารางเมตร
- มีช่องลมด้านบนตัวเครื่อง ลดกลิ่นอับชื้นได้ดี และลดความชื้นได้ 3 ลิตรต่อวัน
- ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มการทำงานปุ่มเดียวเท่านั้น
- ประหยัดไฟด้วยกำลังไฟเพียง 30W เท่านั้น
- ระดับเสียงขณะเครื่องทำงานดังพอสมควร
- มีฟังก์ชันในการใช้งานค่อนข้างน้อย
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
5. เครื่องดูดความชื้น SHANBEN 158L
เครื่องดูดความชื้น SHANBEN 158L ราคา 17,888 บาท เป็นเครื่องดูดความชื้นเชิงพาณิชย์ มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับพื้นที่ในการใช้งานได้กว้างถึง 100 ตารางเมตร เหมาะสำหรับโรงงาน โกดังเก็บของ โรงจอดรถ ห้องสมุด เป็นต้น โดยจะสร้างอากาศหมุนเวียนครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ด้วยท่ออากาศแบบ 3 มิติ ช่วยให้ลดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไร้กลิ่นอับชื้น และลดความชื้นได้สูงสุด 156 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้มีฟังก์ชันความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป้องกันแรงดันไฟฟ้า ป้องกันการเกิดอาการแข็งตัว แม้กระทั่งป้องกันไฟลุกลาม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันตั้งเวลาเปิด-ปิด อีกทั้งมีแผงควบคุมการทำงานที่สะดวก ใช้งานง่าย
| ยี่ห้อ/รุ่น | SHANBEN 158L |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 100 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | ไม่ระบุ |
| ความจุถังน้ำ | ไม่ระบุ |
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุที่ใช้ผลิตมีคุณภาพ ใช้งานได้ดีสำหรับพื้นที่กว้างขนาด 100 ตารางเมตร เช่น โรงจอดรถ โกดัง โรงงาน เป็นต้น
- มีท่ออากาศ 3 มิติ อากาศหมุนเวียนครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ลดเชื้อรา และความชื้นได้ดี
- แผงควบคุมการทำงานใช้งานง่าย อำนวยความสะดวกครบครัน
- ลดความชื้นได้สูงสุด 156 ลิตรต่อวัน ใช้งานได้นาน
- การควบคุมการทำงาน อาจต้องศึกษาคู่มือในการใช้งาน
- ไม่เหมาะสำหรับใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
6. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi รุ่น H2102
เครื่องดูดความชื้นจากแบรนด์ Xiaomi รุ่น H2102 ราคา 1,029 บาท มีดีไซน์ทันสมัย ขนาดเล็กกะทัดรัด รองรับการติดตั้งภายในพื้นที่ 15 ตารางเมตร สามารถวางไว้ในห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องคอม เป็นต้น ซึ่งตัวเครื่องมี Semi-Conductor ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูง กำจัดแบคทีเรียและเชื้อรา รวมถึงลดความชื้นในอากาศได้สูงสุด 350 มิลลิลิตรต่อวัน นอกจากนี้มีโหมด Sleep เสียงการทำงานค่อนข้างงเงียบ ไม่รบกวนการนอนหลับของคุณ ส่วนระบบควบคุมใช้งานง่าย เพราะมาพร้อมกับระบบไฟ LED 7 สี เพิ่มความผ่อนคลายเมื่อใช้งาน สามารถกดปิดไฟได้ อีกทั้งมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อกักเก็บน้ำได้เต็มความจุแล้ว
| ยี่ห้อ/รุ่น | Xiaomi รุ่น H2102 |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 15 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | 36W |
| ความจุถังน้ำ | 1 ลิตร |
- ดีไซน์สวยงาม สไตล์มินิมอล ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย และมีระบบไฟ LED ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายขณะใช้งาน
- ฟังก์ชันเยอะ มีทั้งการตั้งเวลาทำงานของเครื่อง ตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง เป็นต้น
- ควบคุมการทำงานได้ไม่ยาก สามารถทำความเข้าใจปุ่มกดต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
- ใช้กำลังไฟฟ้าน้อย ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี
- เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป และเหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กเท่านั้น
- ถังกักเก็บน้ำมีความจุ 1 ลิตร ต้องนำเททิ้งอยู่บ่อยครั้ง
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
7. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi Mi Smart Dehumidifier 18L
พบกับเครื่องดูดความชื้นจากแบรนด์ Xiaomi อีกเครื่อง นั้นก็คือ Mi Smart Dehumidifier 18L ราคา 8,999 บาท ดีไซน์ทันสมัย ขนาดเครื่องกำลังดี วางไว้มุมไหนของห้องก็ดูสบายตา ส่วนการทำงาน จะดูดความชื้นโดยใช้อุณหภูมิที่ 5-35 องศา ทำให้คุณรู้สึกสบาย ไม่รู้สึกเหนียวตัว และบอกลาความชื้นไปได้นาน ด้วยความสามารถในการดูดความชื้นได้ 22 ลิตร/วัน นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯบนสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังมีโหมดตากผ้า ช่วยลดความชื้นภายในห้อง ทำให้เสื้อผ้าแห้งและไม่มีกลิ่นอับชื้น
| ยี่ห้อ/รุ่น | Xiaomi Mi Smart Dehumidifier 22L |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
| กำลังไฟฟ้า | 255W |
| ความจุถังน้ำ | 4.5 ลิตร |
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความทันสมัย สวยงาม ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งบ้านได้ดี วางไว้มุมไหนของห้องก็ดูสบายตา สวยงาม
- สามารถดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตร/วัน บอกลาความชื้นไปได้เลย
- มีโหมดตากผ้า ช่วยให้ตากผ้าภายในห้องได้ โดยไม่มีกลิ่นอับชื้น
- ควบคุมการทำงานผ่านแอปฯสมาร์ทโฟน สะดวกในการใช้งาน
- เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง อาจต้องระมัดระวังการรั่วซึมของน้ำ
- ตัวล้อลาก เคลื่อนไหวไม่ลื่นเท่าที่ควร
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
8. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-1612L2
เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-1612L2 ราคา 7,350 บาท ดีไซน์เรียบง่าย มาพร้อมกับขนาด 25.6×20.3×41.5 เซนติเมตร ถือว่ามีขนาดกำลังดี วางไว้มุมไหนก็ได้ของห้อง และมีความจุแทงก์น้ำ 2 ลิตร สามารถใช้ลดความชื้นภายในห้องได้ 12 ลิตรต่อวัน เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 12-15 ตารางเมตร และระดับเสียงขณะใช้งาน 42 เดซิเบล แถมยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำในถังเต็ม และตัวเลือกสำหรับการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ฟังก์ชันตั้งเวลาเปิด ปิดเครื่อง เป็นต้น ส่วนการควบคุมตัวเครื่อง กดปุ่มผ่านจอ LCD โดยมีแสดงโปรแกรมการทำงาน และระดับความชื้น นอกจากนี้ยังมีตัวล้อและหูหิ้ว ใช้สำหรับลากเคลื่อนที่ได้สะดวกอีกด้วย
| ยี่ห้อ/รุ่น | HOMEMATE รุ่น HOM-1612L2 |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 12-15 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | ไม่ระบุ |
| ความจุถังน้ำ | 2 ลิตร |
- ขนาดตัวเครื่องมีขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถจัดวางไว้ได้ตามมุมห้องที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 12-15 ตารางเมตร
- มีฟังก์ชันในการทำงานครบครัน เช่น ตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ตั้งเวลาเปิด-ปิด และระบายน้ำ เป็นต้น
- ความจุของถังน้ำเพียง 2 ลิตร แต่สามารถลดความชื้นภายในห้องได้ 12 ลิตรต่อวัน
- เสียงการทำงานค่อนข้างเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนขณะใช้งาน
- ไม่มีโหมด Sleep ไม่ควรใช้งานขณะนอนหลับ อาจมีเสียงดังรบกวนได้
- ตัวเครื่องมีดีไซน์เรียบง่าย ไม่ทันสมัยเท่าแบรนด์อื่น ๆ
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
9. เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30
เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30 ราคา 17,990 บาท ดีไซน์หรูหรา โฉบเฉี่ยว สวยงาม เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ 30-50 ตารางเมตร สามารถดูดความชื้นได้สูงสุด 30 ลิตรต่อวัน ความจุที่กักเก็บน้ำ 4 ลิตร มาพร้อมกับฟังก์ชันต่าง ๆ และระบบความปลอดภัยมากมาย อาทิเช่น สามารถปรับระดับค่าความชื้นได้ตามที่ต้องการ ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ ตั้งเวลาทำงานเครื่องได้สูงสุด 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนเมื่อน้ำเต็มถัง และระบายน้ำได้ เป็นต้น มีหน้าจอควบคุมการทำงาน สำหรับใช้แสดงผลค่าความชื้น สถานะการใช้งาน หรืออื่น ๆ โดยสามารถควบคุมตัวเครื่องได้ผ่านระบบสัมผัสบนหน้าจอ สะดวก ใช้งานง่าย
| ยี่ห้อ/รุ่น | Bwell รุ่น BDH-30 |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 30-50 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | ไม่ระบุ |
| ความจุถังน้ำ | 4 ลิตร |
- ดีไซน์ตัวเครื่องทันสมัย มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับจัดวางไว้ขนาดพื้นที่ 30-50 ตารางเมตร เช่น ห้องรับแขก เป็นต้น
- มีฟังก์ชันในการใช้งานจัดเต็ม ผู้ใช้งานสามารถเลือกฟังก์ชันที่ต้องการได้ เช่น ปรับแรงลม ปรับค่าความชื้น และอื่น ๆ
- มีระบบระบายน้ำภายในตัว ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องถอดถังน้ำไปเททิ้ง
- รองรับการใช้งานขณะนอนหลับด้วยโหมด Sleep
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักเยอะจนเกินไป ทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก
- เสียงการทำงานค่อนข้างดังกว่าแบรนด์อื่น ๆ
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
10. เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-20
ในที่สุดก็มาถึงรีวิวหัวข้อเครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีอันดับสุดท้าย นั้นก็คือ เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-20 ราคา 9,793 บาท ดีไซน์ล้ำสมัย ดูสวยงาม น่าใช้งาน มีความสามารถในการลดความชื้น 20 ลิตรต่อวัน เหมาะสำหรับห้องขนาด 10-30 ตารางเมตร ความจุที่กักเก็บน้ำ 3.5 ลิตร นอกจากจะดูดความชื้นได้แล้ว ตัวเครื่องยังมีสารทำความเย็น R134a ช่วยให้บรรยากาศโดยรอบมีความเย็นสบาย มาพร้อมกับฟังก์ชันต่าง ๆ ภายใน อาทิเช่น ตั้งเวลาการทำงานของเครื่อง ระบบแจ้งเตือนเมื่อถังน้ำเต็ม เป็นต้น ส่วนระบบควบคุม ใช้งานง่าย โดยสัมผัสผ่านหน้าจอดิจิตอล และปุ่มกดต่าง ๆ บนตัวเครื่อง ซึ่งบนหน้าจอก็จะมีการแสดงสถานะการทำงานต่าง ๆ และตัวเลขบอกระดับความชื้นอีกด้วย
| ยี่ห้อ/รุ่น | Bwell รุ่น BDH-20 |
| ขนาดพื้นที่ที่รองรับ | 10-30 ตารางเมตร |
| กำลังไฟฟ้า | 440W |
| ความจุถังน้ำ | 3.5 ลิตร |
- ดีไซน์สวยงาม มีความล้ำสมัย และรองรับพื้นที่ในการใช้งาน 10-30 ตารางเมตร สามารถจัดวางไว้ได้ทุกมุมห้องของบ้าน
- ถังน้ำมีความจุ5 ลิตร สามารถลดความชื้นได้มากถึง 20 ลิตรต่อวัน เพียงพอต่อการใช้งาน
- ควบคุมการทำงานได้ง่าย ๆ ผ่านหน้าจอดิจิทัล และมีปุ่มกดต่าง ๆ ใช้งานสะดวก
- มีสารความเย็น R134a ช่วยปรับอุณหภูมิโดยรอบให้เย็นสบาย และไร้ความชื้น
- ไม่ควรเปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจจะสิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่ายได้
- มีเสียงการทำงานค่อนข้างดัง อาจรบกวนสมาธิของคุณและคนรอบตัว
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
บทสรุป
เราขอแนะนำดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier ราคา 2,590 บาท เพราะเป็นเครื่องดูดความชื้น ราคาถูก มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เพียบพร้อม โดยเหมาะกับนำไปจัดวางในพื้นที่ห้องขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร ปรับอุณหภูมิโดยรอบได้เหมาะสม ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้อุณหภูมิ 5-32 องศาเซลเซียสได้ตามที่ต้องการใช้งาน และตัวเครื่องมีความจุถังกักเก็บน้ำสูงสุด 2 ลิตร ลดความชื้นต่อวันได้ 750 มิลลิลิตร เพียงพอต่อการใช้งานในทุก ๆ วัน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีเสียงการทำงานที่เบา แม้จะใช้ขณะนอนหลับก็ไม่มีเสียงดังรบกวน หรือใช้ในห้องทำงาน ก็ไม่มีเสียงดังรบกวนสมาธิด้วยเช่นกัน ดังนั้นถือเป็นเครื่องดูดความชื้นที่ควรมีติดบ้าน คุ้มค่ากับราคา
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
- รีวิว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Electrolux รุ่น BO78SD สีดำ - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว เตาแก๊ส DENPA เตาแก๊สหน้ากระจก สีดำ 2 หัว - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว ที่นอนแคมป์ปิ้ง Cl เป่าลมพองอัตโนมัติ ท่องเที่ยวแบบพกพา - มีนาคม 29, 2024
