การชงกาแฟ ถือเป็นศิลปะที่มีความสำคัญในวงกว้าง และ “หม้อต้มกาแฟ” หรือ “Moka pot” ยังเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกลิ่นหอม และรสชาติเข้มข้นของกาแฟที่อร่อยที่สุด ซึ่ง Moka pot สามารถพกพาไปชงกาแฟนอกสถานที่ได้ง่าย ๆ ไม่ใช้ไฟฟ้า และเป็นการชงกาแฟที่อร่อยกว่าแบบผงกาแฟสำเร็จรูปที่ใช้กาต้มน้ำร้อน หรือกระติกน้ำร้อน
ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวแนะนำ 10 หม้อต้มกาแฟ Moka pot จากยี่ห้อต่าง ๆ ซึ่งมีขายในตลาดมากมาย และเน้นให้คุณทราบถึงคุณสมบัติที่แตกต่าง และจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อ เพื่อช่วยให้คุณเลือกหม้อต้มกาแฟที่มีรสชาติที่ยอดเยี่ยม และตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแม่นยำ มาติดตามพร้อม ๆ กันเลย
Moka pot คืออะไร
Moka pot หรือหม้อต้มกาแฟ คือ อุปกรณ์ชงกาแฟที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า แต่เหมาะสำหรับใช้งานบนเตาแก๊ส โดยถูกคิดค้นจากวิศวกรชาวอิตาลี Alfonso Bialetti ในปี พ.ศ. 2476 และหลักการทำงานของมัน จะเกิดจากการขับน้ำผ่านเมล็ดกาแฟด้วยแรงดัน เพื่อสร้างน้ำกาแฟแสนหอม และอร่อยได้ลงตัวที่สุด ซึ่งอุปกรณ์ของ Moka Pot ประกอบไปด้วยถังเล็ก ๆ ที่ไว้ใส่น้ำเปล่าในส่วนล่าง ที่เรียกว่าหม้อไอน้ำ ส่วนกลางคือชั้นกรองที่ใส่กาแฟบดละเอียดซึ่งมีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ เพื่อให้น้ำไหลผ่านกาแฟ ไปยังท่อตรงกลางหม้อน้ำ และส่งไปยังส่วนบนสุดที่เป็นเหยือกสำหรับกักเก็บน้ำชงกาแฟ จากแรงดันในส่วนของหม้อไอน้ำ ทั้งนี้การชงกาแฟด้วย Moka pot จะเน้นใช้ทำเมนู Espresso หรือ Americano เพราะจะได้ดื่มด่ำไปกับกลิ่นหอม และความเข้มข้นของเมล็ดกาแฟได้ดีเลยทีเดียว
วิธีการเลือกซื้อ Moka pot ยี่ห้อไหน ต้มกาแฟหอม อร่อย
1. พิจารณาจากขนาด
ก่อนอื่นเราควรพิจารณาจากขนาดของหม้อต้มกาแฟ เพราะ Moka pot มีจุดเด่นในเรื่องของการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เหมาะสำหรับทริปท่องเที่ยวไปตั้งแคมป์กับเพื่อน ๆ หรือคนที่คุณรัก โดยควรเลือกขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป รวมถึงน้ำหนักเบาไว้ก่อน เพื่อช่วยให้พกพาใส่ลงในกระเป๋าได้ง่าย ๆ
2. วัสดุที่ใช้ในการผลิต
ควรเลือกหม้อต้มกาแฟ Moka pot ที่ใช้วัสดุในการผลิตคือ อะลูมิเนียม หรือ สแตนเลส และต้องเป็นระดับ Food Grade เพราะช่วยให้ต้มกาแฟได้ปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อนต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน และหูจับยังทนความร้อน จับได้สะดวกอีกด้วย
3. ปริมาณชงกาแฟ
สำหรับปริมาณชงกาแฟ คุณควรพิจารณาว่า จะชงกาแฟให้ใครดื่มบ้าง มีจำนวนกี่คน เป็นต้น เพื่อให้ชงกาแฟได้ในปริมาณที่เหมาะสมกับจำนวนคน เช่น หากคุณดื่มกาแฟคนเดียวเป็นประจำ ก็อาจจะเลือกหม้อต้มกาแฟชนิด 2 Cups แต่ถ้าต้องไปทริปกับเพื่อนหลาย ๆ คน เกิน 4 คน ควรเลือกหม้อต้มกาแฟชนิด 6 Cups เพื่อรองรับจำนวนคนให้เพียงพอ ไม่ต้องต้มบ่อยนั่นเอง
รีวิวแนะนำ 10 หม้อต้มกาแฟ Moka pot ยี่ห้อไหน ต้มกาแฟรสชาติดี
1. Moka pot Bialetti รุ่น Brikka 2020 2 Cups
เริ่มต้นรีวิวแนะนำหม้อต้มกาแฟ Moka pot จากแบรนด์ Bialetti ถือเป็นโมก้าพอทต้นแบบจากประเทศอิตาลี มีดีไซน์คลาสสิก แต่ยังคงดูทันสมัย ด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมที่โดดเด่น คล้ายเครื่องชงกาแฟแบบอิตาลีดั้งเดิม ประกอบกับคุณภาพในการผลิตค่อนข้างสูง ซึ่งจะใช้อะลูมิเนียมระดับ Food Grade ให้ความทนทานสูง และปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงได้พัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มแรงดันภายในหม้อต้มมากกว่ารุ่นปกติถึง 2 เท่า โดยการใช้ยางซิลิโคนชนิดพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bialetti ทำให้อุณหภูมิมากขึ้นกว่าเดิม 5 องศาเซลเซียส ได้กาแฟมากขึ้นและยังสามารถสร้างครีม่าได้มากกว่ารุ่นปกติถึง 20% จึงทำให้กาแฟเอสเพรสโซ่มีความเข้มข้น กลิ่นหอม และนุ่มกว่าที่เคย อีกทั้งสามารถชงกาแฟในปริมาณ 100 มิลลิลิตร เหมาะสำหรับกาแฟ 1-2 แก้ว และทำความสะอาดได้โดยที่ไม่เป็นสนิม
ยี่ห้อ/รุ่น | Bialetti รุ่น Brikka 2020 |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 10x14x17 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 2 Cup หรือ 100 ml. |
- ดีไซน์รูปทรงแปดเหลี่ยมสุด Classic เอกลักษณ์ตามสไตล์อิตาลี มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับทำกาแฟ 1-2 แก้ว
- มีเทคโนโลยีในการเพิ่มแรงดันน้ำ สร้างครีม่าได้ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ ช่วยให้มีกลิ่นหอม และกาแฟนุ่มนวลอร่อยยิ่งขึ้น
- ตัวฐานใช้วัสดุทนทานจาก Bialetti โดยเฉพาะ ทนต่อความร้อนได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นสนิม
- ออกแบบที่จับให้มีความกระชับมากขึ้น สามารถหยิบ ถือ ยกขึ้นได้สะดวก
- ควรบิดตัวหม้อต้มให้แน่นสนิททุกครั้งที่ใช้งาน ไม่เช่นนั้น น้ำจะรั่วซึมจากแรงดันน้ำได้
- ใช้ได้กับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าเท่านั้น
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
2. Moka pot Bialetti รุ่น Moka Express 3 Cups
มาต่อกันที่โมก้าพอทจาก Bialetti รุ่น Moka Express ถือเป็นรุ่นดั้งเดิมของแบรนด์ Bialetti จึงสามารถต้มกาแฟเอสเพรสโซ่ได้รสชาติเข้มข้นเหมือนกาแฟอิตาลีแท้ ๆ ซึ่งตัวนี้จะมีดีไซน์คลาสสิกมาก น้ำหนักเบา นำความร้อนได้ดี ด้ามจับพลาสติกทนความร้อน โดยตัวของโมก้าจะเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด เป็นวัสดุคุณภาพสูง และเป็นระดับ Food Grade จึงมั่นใจได้เลยว่าทุกการต้มกาแฟจะได้รับความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ส่วนการใช้งานจะรองรับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า และเตาเซรามิก นอกจากนี้ยังชงกาแฟได้ในปริมาณ 130 มิลลิลิตร เหมาะสมสำหรับกาแฟ Espresso หรือ Americano 2-3 แก้ว
ยี่ห้อ/รุ่น | Bialetti รุ่น Moka Express |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 10x14x17 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 3 Cups หรือ 130 ml. |
- ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มีความคลาสสิก และเป็นรุ่นดั้งเดิมของแบรนด์ Bialetti ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย ๆ
- ใช้วัสดุคุณภาพสูง และเป็นระดับ Food Grade ทั้งหมด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- กลิ่นหอมของกาแฟจะเข้มข้นตามสไตล์อิตาลีแท้ ๆ และสร้างครีม่าได้ค่อนข้างดี
- เหมาะสำหรับชงดื่ม 2-3 คน
- เนื่องจากด้ามจับเป็นพลาสติก จึงไม่ควรต้มด้วยไฟแรง อาจจะทำให้ด้ามจับละลาย
- ไม่สามารถใช้งานกับเตาชนิดแม่เหล็กได้
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
3. Moka pot Bialetti รุ่น Brikka 2020 4 Cups
ยังคงอยู่กับโมก้าพอทในแบรนด์ Bialetti รุ่น Brikka 2020 แน่นอนว่าเรารีวิวแนะนำไปแล้วในอันดับที่ 1 แต่ในรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันที่ขนาด เพราะด้วยปริมาณ 4 Cups สามารถชงกาแฟได้ในปริมาณ 180 มิลลิลิตร เหมาะสำหรับชงกาแฟได้ 3-4 คน ทั้งนี้คุณควรรู้ว่า หม้อต้มกาแฟ Bialetti เป็นงานฝีมือแบบ Semi-handcraft จากประเทศอิตาลี มีการหล่อชิ้นงานจากโรงงานและขัดแต่งด้วยมือ ซึ่งคุณอาจจะเห็นร่องรอยต่าง ๆ จากการผลิตได้ชัดเจน และการใช้งานมีความปลอดภัยอย่างแน่นอนด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ระดับ Food Grade นำความร้อนได้ดี และไม่ปนเปื้อนสารเคมีอีกด้วย
ยี่ห้อ/รุ่น | Bialetti รุ่น Brikka 2020 |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 12x16x21.5 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 4 Cups หรือ 180 ml. |
- สำหรับ Bialetti รุ่น Brikka 2020 4 Cups เหมาะสำหรับผู้ที่เปิดร้านกาแฟ และเหมาะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เช่น ตั้งแคมป์ เป็นต้น
- ดีไซน์คลาสสิกจากประเทศอิตาลีแท้ ๆ ทำให้ผู้ใช้งานเสมือนได้ดื่มด่ำกาแฟจากประเทศอิตาลีเช่นกัน
- ชงกาแฟได้หอมกว่ารุ่นอื่น ๆ และครีม่าของกาแฟเยอะ ช่วยให้สัมผัสของกาแฟมีความนุ่มลึกมากขึ้น
- วัสดุอะลูมิเนียมแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน และไม่อันตรายต่อร่างกาย
- มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับใช้งาน 1-2 คน
- ใช้ได้กับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าเท่านั้น
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
4. Moka pot Bialetti รุ่น Rainbow 3 Cups
สำหรับหม้อต้มกาแฟ Moka pot Bialetti รุ่น Rainbow มีการเพิ่มสีสันให้กับตัวหม้อต้ม ทำให้มีความทันสมัย น่ารัก น่าใช้งาน ซึ่งลักษณะดีไซน์ 8 เหลี่ยมจะคล้ายกับรุ่น Moka Express ช่วยตกแต่งครัวเรือนให้ดูทันสมัยได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับครัวสไตล์ Minimal ซึ่งสามารถชงกาแฟได้ประมาณ 2-3 แก้ว เหมาะกับเมนู Espresso และ Americano มาพร้อมกับกลิ่นกาแฟที่หอมนวล และสัมผัสที่นุ่มลึก ไม่ขมจนเกินไป นอกจากนี้ตัวหม้อต้ม สามารถทำความสะอาดได้ทุกส่วน และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสนิม
ยี่ห้อ/รุ่น | Bialetti รุ่น Rainbow |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | ไม่ระบุ |
ปริมาณกาแฟ | 3 Cups หรือ 130 ml. |
- ดีไซน์คลาสสิก แต่เพิ่มสีสันด้วย Light Blue ทำให้มีความทันสมัย น่ารัก น่าใช้งานมากขึ้น เหมาะสำหรับตกแต่งครัวเรือนสไตล์ Minimal
- ใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่าง อะลูมิเนียม ระดับ Food Grade สามารถดื่มกาแฟได้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาได้ง่าย นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก
- ทำความสะอาดได้ทุกส่วน ไม่เกิดสนิมอย่างแน่นอน
- ใช้ได้กับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าเท่านั้น
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
5. Moka pot Bialetti รุ่น Moka Express 3 Cups
สำหรับหม้อต้มกาแฟจาก Bialetti รุ่น Moka Express 3 Cups ในรุ่นนี้จะมีการเพิ่มสีสันด้วยสีเขียวและแดง ตัดกันอย่างลงตัว สวยงาม และทันสมัย เพราะเนื่องจากหลาย ๆ คนอาจจะเบื่อดีไซน์ และสีเงินสุดคลาสสิกจากรุ่นเดิม ๆ ทำให้ผู้ผลิตเพิ่มสีสันเข้ามา ซึ่งแม้จะเพิ่มสีสันเข้าไป แต่ยังคงเป็นระดับ Food Grade และใช้วัสดุคุณภาพสูง สามารถทนต่อความร้อนได้ดี สีไม่หลุดลอก มาพร้อมกับความสามารถในการชงกาแฟได้ 2-3 แก้ว เหมาะสำหรับพกพาไปตั้งแคมป์นอกสถานที่ หรือจะชงกาแฟสำหรับผู้คนในบ้านได้เป็นอย่างดี
ยี่ห้อ/รุ่น | Bialetti รุ่น Moka Express |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 9×15.5×16.5 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 3 Cups หรือ 130 ml. |
- ดีไซน์เป็นเอกลักษณะ และเป็นต้นแบบของโมก้าพอทให้กับทุกรุ่น เพียงแต่เพิ่มสีสันให้มีความสวยงาม และดูเป็นอิตาลีแท้ ๆ มากขึ้น
- ใช้วัสดุคุณภาพดีเยี่ยม โดยใช้อะลูมิเนียมระดับ Food Grade ช่วยให้ผู้บริโภคดื่มด่ำกับกาแฟที่หอมนวล ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- น้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกสถานที่
- ทำความสะอาดได้ทุกชิ้นส่วน ไม่เป็นสนิม
- ด้ามจับเป็นพลาสติก จึงไม่ควรต้มด้วยไฟแรง อาจจะทำให้ด้ามจับละลาย
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
6. Moka pot Alechaung 6 Cups
หม้อต้มกาแฟ Moka pot ราคาสบายกระเป๋า จากแบรนด์ Alechaung ดีไซน์เสมือนกับหม้อต้มแบรนด์ Bialetti เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นต้องการต้มกาแฟด้วย โมก้าพอท ซึ่งมาพร้อมกับขนาด 6 Cups หรือชงกาแฟได้ 300 มิลลิลิตร เหมาะสำหรับชงกาแฟได้หลายที่ หรืออาจจะเปิดร้านเล็ก ๆ รวมถึงพกพาไปใช้งานตั้งแคมป์ก็ได้เช่นกัน โดยรองรับการใช้งานกับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาแก๊สกระป๋อง เตาแคมปิ้ง เตาอินฟราเรดไฟฟ้า เตาถ่าน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกาแฟที่หอม รสชาติเข้มข้น ไม่ขมจนเกินไป
ยี่ห้อ/รุ่น | Alechaung |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | ไม่ระบุ |
ปริมาณกาแฟ | 6 Cups หรือ 300 ml. |
- ดีไซน์คลาสสิก ทันสมัย และมีความคล้ายกับ Bialetti เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดื่มด่ำกับกาแฟ หรือพกพาไปใช้งานตั้งแคมป์นอกสถานที่ได้สะดวก
- สามารถชงกาแฟได้จำนวนหลายที่ โดยประมาณ 4-5 คน ไม่จำเป็นต้องชงบ่อย ๆ
- รองรับการใช้งานได้เกือบทุกชนิดเตา ยกเว้นเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
- ใช้วัสดุอะลูมิเนียม ให้ความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
- วัสดุอะลูมิเนียมไม่ใช่ลิขสิทธิ์แท้จากอิตาลี จึงอาจทำให้ร้อนช้ากว่าที่ควร
- สร้างแรงดันน้ำไม่ดีเท่ากับรุ่นอื่น ๆ
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
7. Moka pot LZA รุ่น K91
หม้อต้มกาแฟ LZA รุ่น K91 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาประหยัด สบายกระเป๋า ดีไซน์ทันสมัย สีดำดูโฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับขนาดเล็กกะทัดรัด รองรับการชงกาแฟได้ 2-3 แก้ว เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ หรือเริ่มต้นเป็นบาริสต้าประจำบ้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวหม้อต้มใช้วัสดุอะลูมิเนียม ให้ความแข็งแรง ทนทาน นำความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้กาแฟร้อนเร็ว กลิ่นหอมฟุ้งกระจายทุกครั้งที่ใช้งาน อีกทั้งสามารถทำความสะอาดได้ทุกส่วนของหม้อต้ม ไม่เกิดสนิม และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน
ยี่ห้อ/รุ่น | LZA รุ่น K91 |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 9×15.5×16.5 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 3 Cups หรือ 130 ml. |
- ดีไซน์ทันสมัย มีสีดำดูโฉบเฉี่ยว ขนาดกะทัดรัด น่าใช้งาน ตกแต่งห้องครัวที่เป็นสีขาวได้เป็นอย่างดี
- เหมาะสำหรับชงกาแฟ 2-3 แก้ว สามารถเป็นบาริสต้าประจำบ้านได้ง่าย ๆ
- น้ำหนักเบา สามารถพกพาใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก
- วัสดุคุณภาพดี ไม่เกิดสนิม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- สร้างแรงดันน้ำไม่ดีเท่ากับรุ่นอื่น ๆ
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
8. Moka pot By Scanproducts 3 Cups
หม้อต้มกาแฟเอสเพรสโซ่ขนาด 3 Cups จากแบรนด์น้องใหม่อย่าง By Scanproducts ซึ่งใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง เป็นระดับ Food Grade ทำให้ทุกการต้มกาแฟมีความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีมาปนเปื้อน โดยตัวหม้อต้มมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกอย่างมาก หรือจะเป็นบาริสต้าประจำบ้านก็ได้เช่นกัน อีกทั้งรองรับการใช้งานได้ทั้งเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า และเตาถ่าน ช่วยให้คุณทำกาแฟสดหอมกรุ่นดื่มกินเองได้ง่าย ๆ
ยี่ห้อ/รุ่น | By Scanproducts |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | ไม่ระบุ |
ปริมาณกาแฟ | 3 Cups หรือ 130 ml. |
- หม้อต้มกาแฟสีดำทันสมัย ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 356 กรัม พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย ๆ
- ขนาด 3 Cups สามารถชงกาแฟได้ในปริมาณ 130 มิลลิลิตร เหมาะสำหรับกาแฟ 2-3 ที่
- แรงดันน้ำสามารถทำได้ดี ทำให้มีกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น และสัมผัสกาแฟนุ่มนวล
- ทำความสะอาดได้ทุกส่วน ไม่เกิดสนิม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- หูจับใช้วัสดุไนล่อน อาจต้องระมัดระวังเรื่องความร้อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้หูจับละลายได้
- วัสดุอะลูมิเนียมไม่ใช่ลิขสิทธิ์แท้จากอิตาลี จึงอาจทำให้ร้อนช้ากว่าที่ควร
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee
9. Moka pot iMIX 6 Cups
หม้อต้มกาแฟ Moka pot จาก iMIX ขนาด 6 Cups ซึ่งทำกาแฟได้ในปริมาณ 300 มิลลิลิตร สำหรับกาแฟเอสเพรสโซ่ 4-5 แก้ว ช่วยให้คุณเป็นบาริสต้านักชงกาแฟประจำบ้าน หรือจะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างตั้งแคมป์ก็เหมาะสมเช่นกัน โดยตัวหม้อต้มใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง และเป็นระดับ Food Grade ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่า บริโภคได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อน นอกจากนี้มีวาล์วที่ใช้คุมแรงดันน้ำออกแบบมาได้ดี ช่วยให้ต้มกาแฟได้กลิ่นหอม และรสชาติของกาแฟมีมิติมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เกิดสนิมอีกด้วย
ยี่ห้อ/รุ่น | iMIX |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | ไม่ระบุ |
ปริมาณกาแฟ | 6 Cups หรือ 300 ml. |
- ดีไซน์คลาสสิก ราคาประหยัด สบายกระเป๋า และพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก
- วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ทนทานต่อความร้อน ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- สามารถชงกาแฟได้ในปริมาณมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องชงกาแฟบ่อย
- ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เกิดสนิม
- หูจับเป็นพลาสติก ไม่ควรใช้ความร้อนมากจนเกินไป
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
10. Moka pot Zigma home
ในที่สุดก็มาถึงรีวิวแนะนำหม้อต้มกาแฟ Moka pot อันดับสุดท้าย นั้นก็คือ Zigma home มีดีไซน์แปลกใหม่ ตัวหม้อต้มด้านล่างใช้สแตนเลส 304 เคลือบด้วยความเงาวาว และใช้วัสดุระดับ Food Grade สามารถต้มกาแฟได้ไร้สารปนเปื้อน ส่วนตัวกาด้านบนใช้วัสดุอะลูมิเนียม เกรดอาหาร มีลักษณะ 8 เหลี่ยม ให้ความคล้ายกับรุ่น Moka Express จาก Bialetti ของอิตาลี มาพร้อมกับวาลว์แรงดัน ช่วยให้ต้มกาแฟได้กลิ่นหอมนวล และสัมผัสของรสกาแฟนุ่มลึก ไม่ขมจนเกินไป ทำให้คุณดื่มด่ำกาแฟได้อย่างสบายใจอย่างแน่นอน
ยี่ห้อ/รุ่น | Zigma home |
วัสดุในการผลิต | อะลูมิเนียม |
ขนาด | 10x20x21.5 เซนติเมตร |
ปริมาณกาแฟ | 2 Cups |
- ดีไซน์ทันสมัย มีความแวววาว สวยงาม และมีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับชงกาแฟสำหรับ 1-2 คน
- มีวาลว์แรงดันน้ำ ทำให้ชงกาแฟได้อย่างปลอดภัย และได้รับแรงดันน้ำที่เหมาะสมกับปริมาณกาแฟ
- ใช้วัสดุ Food Grade ทั้งหม้อต้มและกาด้านบน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- น้ำหนักเบา สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย ๆ
- เนื่องจากด้ามจับเป็นพลาสติก จึงไม่ควรต้มด้วยไฟแรง อาจจะทำให้ด้ามจับละลาย
- ไม่สามารถใช้งานกับเตาชนิดแม่เหล็กได้
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
บทสรุป
เราขอแนะนำ Moka pot Bialetti รุ่น Brikka 2020 2 Cups เพราะมีขนาดและปริมาณในการชงกาแฟที่เหมาะสมสำหรับ 1-2 คน และช่วยให้ผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกาแฟสดหอม ๆ มาเริ่มต้นชงกาแฟด้วย Moka pot ได้ง่าย ๆ ซึ่งตัวหม้อต้มกาแฟมีเทคโนโลยีพิเศษ เพิ่มกลิ่นหอมของกาแฟ และครีม่าได้สวยงาม น่าดื่มมาก อีกทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่าง อะลูมิเนียมระดับ Food Grade จากอิตาลี ปลอดภัย ทนทาน คุ้มค่ากับราคา การันตีว่าต้มกาแฟรสชาติดีแน่นอน
เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada
- รีวิว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Electrolux รุ่น BO78SD สีดำ - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว เตาแก๊ส DENPA เตาแก๊สหน้ากระจก สีดำ 2 หัว - มีนาคม 30, 2024
- รีวิว ที่นอนแคมป์ปิ้ง Cl เป่าลมพองอัตโนมัติ ท่องเที่ยวแบบพกพา - มีนาคม 29, 2024