รีวิว 10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย

หูฟังตัดเสียงรบกวน ถือว่าอยู่ในรูปแบบหูฟังไร้สาย โดยออกแบบมาเพื่อให้ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Noise Canceling) เมื่อสวมใส่จะทำให้คุณได้รับอรรถรสเต็มรูปแบบ ทำให้การรับชม Content ต่าง ๆ มีความสมจริงและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้สามารถนำมาใช้งานขณะประชุม หรือขับรถ และต้องการความส่วนตัว โดยไร้เสียงรบกวน รวมถึงยังคงเป็นหูฟังที่ช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้เช่นกัน แต่หากคุณไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ซึ่งภายในบทความของเราจะมาไขข้อสงสัยให้กับคุณ โดยคัดสรรมาทั้ง 10 อันดับที่ดีที่สุด ให้คุณนำไปเป็นข้อมูลพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการ ดังนั้นไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่า มีหูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนกันบ้าง

หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย

1.       หูฟัง Soundpeats MAC

หูฟัง Soundpeats MAC

เรามาเริ่มต้นรีวิวหูฟังครอบหูตัดเสียง ตัวแรกกับ หูฟังตัดเสียงรบกวนราคาถูกต้องยกให้ Soundpeats MAC เป็นหูฟังแบบ In-Ear มีดีไซน์ที่สวยงาม ขนาดกะทัดรัด เป็นหูฟังแบบไร้สาย พกพาไปได้สะดวกทุกที่ และยังให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา เบสแน่น เสียงย่านแหลมไม่บาดหู ฟังเพลงได้ทุกแนว และมีไมโครโฟนทั้งสองข้าง พร้อมคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยให้มีเสียงชัดทั้งผู้ฟังและผู้พูด นอกจากนี้มีระบบกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 อีกทั้งมีระบบควบคุมแบบระบบ Touch-Sensitive เพียงสัมผัสหูฟัง เพื่อเล่น/หยุด และเปลี่ยนเพลงได้ง่าย ๆ อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Soundpeats MAC
น้ำหนัก ไม่ระบุ
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง/กล่องชาร์จหูฟัง 60 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟัง Soundpeats MAC มีดีไซน์แบบหูฟัง In-Ear และใช้งานไร้สาย พร้อมแบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 9 ชั่วโมง
  • มีระบบตัดเสียงรบกวนทั้งไมโครโฟนและหูฟัง พร้อมระบบ Noise Isolating เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น
  • คุณภาพเสียงดี คุ้มเกินราคา สามารถขับเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง
  • มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ สามารถนำไปใช้ออกกำลังกายได้อีกด้วย

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่สามารถเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวนได้ หากนำไปใช้ดูภาพยนตร์ อาจได้ยินเสียงบทสนทนาเบาลง
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง iOS และ Android แต่หากใช้ iOS ไม่เสถียรเท่า Android

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

2.       หูฟัง Sony รุ่น WH-1000XM4

หูฟัง Sony รุ่น WH-1000XM4

อันดับต่อมา Sony รุ่น WH-1000XM4 เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบครอบหู มีขนาดใหญ่ ดีไซน์สวย ส่วนโค้งบนศีรษะมีฟองน้ำนุ่ม ใส่ได้นานต่อเนื่องสบาย โดยไม่เกิดอาการเจ็บปวดที่ศีรษะหรือใบหู มาพร้อมระบบ Noise Canceling เป็นการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกทั้งหมด ในส่วนระบบเสียงมีเทคโนโลยี 360 Reality Audio ขับเสียงได้รอบทิศทาง คมชัดทุกย่านเสียง และไมโครโฟนจำนวน 5 ตัว มีระบบตัดเสียงรบกวน พูดได้ยินชัดเจน เหมาะสำหรับเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนเวลาประชุมได้เช่นกัน

ยี่ห้อ/รุ่น Sony รุ่น WH-1000XM4
น้ำหนัก 254 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ AUX/Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • Sony รุ่น WH-1000XM4 เป็นประเภทหูฟังครอบหู และเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวน โดยใช้งานแบบไร้สาย มีฟองน้ำนุ่ม ใช้งานได้นานต่อเนื่อง ไม่เจ็บหู
  • สามารถเปิด-ปิดฟังก์ชัน Noise Canceling ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงภายนอก
  • ไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวน ทำให้เสียงพูดมีความคมชัด
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่ระบุเรื่องคุณสมบัติป้องกันน้ำ ไม่เหมาะนำไปใช้ออกกำลังกาย
  • หากสวมใส่นานหลายชั่วโมง จะทำให้รู้สึกร้อนที่ใบหูได้

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

3.       หูฟัง Lenovo LP5

หูฟัง Lenovo LP5

หูฟัง Lenovo LP5 เป็นหูฟังแบบ In-Ear TWS (True Wireless Stereo) ดีไซน์สวย ขนาดกะทัดรัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี มาพร้อมไมโครโฟนเสียงคมชัดระดับ HD และด้วยเทคโนโลยี Double Diagram จะช่วยให้คุณภาพเสียงมีความคมชัด ฟังเพลงได้ในหลากหลายระดับ โทนเสียงที่ความถี่ 20-20,000 Hz แยกเสียงได้ทุกย่านเสียง นอกจากนี้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 สามารถเชื่อมต่อในระยะไกลสุดถึง 10 เมตร อีกทั้งยังสามารถควบคุมหูฟังได้ง่ายๆ ด้วยการแตะที่หูฟัง เพื่อเปิด-ปิดเครื่อง เพิ่ม-ลดระดับเสียงได้อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Lenovo LP5
น้ำหนัก ไม่ระบุ
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 3-5 ชั่วโมง/กล่องชาร์จหูฟัง 12 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย และสามารถเปลี่ยนจุกยางที่หูฟังได้ตามที่ต้องการ เพื่อเพิ่มความกระชับขณะใส่ และเพิ่มคุณภาพเสียงชัดขึ้น
  • ใช้งานง่าย เพียงแตะที่หูฟัง เพื่อใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ขณะฟังเพลง เช่น เพิ่ม-ลดระดับเสียง, ย้อน-ถัดไป
  • มีระบบตัดเสียงรบกวนทั้งหูฟังและไมโครโฟน ใช้ฟังเพลง ประชุม เล่นเกม และอื่น ๆ
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อได้เร็ว และใช้งานได้ไกลถึง 10 เมตร

จุดควรพิจารณา:
  • เมื่อนำไปใช้งานกับระบบปฏิบัติการ iOS ระบบเสียงจะมีความหน่วงเล็กน้อย ไม่เสถียรเท่า Android
  • ไม่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ อาจไม่เหมาะสำหรับใช้ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลางแจ้ง

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

4.       หูฟัง Sony รุ่น WF-1000XM4

หูฟัง Sony รุ่น WF-1000XM4

Sony รุ่น WF-1000XM4 เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS ดีไซน์หรูหรา สวยงาม มีน้ำหนักเบาเพียง 41 กรัม พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน (ANC) ระดับสูง ช่วยลดเสียงภายนอกได้หมดขณะใช้งาน และยังสามารถเปิด-ปิดการรับเสียงภายนอกได้ ส่วนการเชื่อมต่อใช้ Bluetooth 5.2 ช่วยให้สลับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้รวดเร็ว นอกจากนี้มีระบบสั่งการด้วยเสียง ใช้งานง่าย เพียงเปล่งเสียง เพื่อสั่งการทำงานเท่านั้น อีกทั้งมีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IPX4 สามารถนำไปใช้งานออกกำลังกายได้

ยี่ห้อ/รุ่น Sony รุ่น WF-1000XM4
น้ำหนัก 41 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • Sony รุ่น WF-1000XM4 เป็นทั้งหูฟังไร้สาย และหูฟังตัดเสียงรบกวน ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่ใช้งานได้นาน
  • มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งขณะใช้งานคุณแทบไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกมารบกวนเลยทีเดียว
  • มีระบบสั่งการทำงานด้วยเสียง โดยใช้ Google Assistant ในการโต้ตอบกับคุณ
  • มีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่น นำไปใช้ออกกำลังกายได้

จุดควรพิจารณา:
  • เนื่องจากมีขนาดเล็ก และน้ำหนักค่อนข้างเบา ต้องระมัดระวังในการใช้งาน อาจทำให้หล่นแล้วสูญหายได้
  • สำหรับการเชื่อม Bluetooth 5.2 เป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่า ๆ เชื่อมต่อไม่ได้

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

5.       หูฟัง JBL Endurance Run

หูฟัง JBL Endurance Run

หูฟัง JBL Endurance Run เป็นประเภทหูฟังสำหรับออกกำลังกาย และเป็นหูฟังแบบ In-Ear มีดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา และมีสายคล้องคอ ป้องกันการหล่นหาย และบนสายคล้องคอจะมีแถบควบคุมการทำงานของหูฟัง โดยใช้สำหรับปรับระดับเสียง ใช้ฟังก์ชันย้อนกลับ-ถัดไปของเพลงได้ ส่วนคุณภาพเสียงถือว่าออกแบบมาได้ดี เหมาะสำหรับฟังเพลงได้ทุกแนว พร้อมคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนได้ดี ออกกำลังกายไม่มีเบื่อ ทั้งนี้ระบบเชื่อมต่อใช้ Bluetooth 2.4Ghz ทำให้เชื่อมต่อในระยะไกล 10 เมตร และใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม

ยี่ห้อ/รุ่น JBL Endurance Run
น้ำหนัก 7 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟัง JBL Endurance Run แบบ In-Ear มีสายคล้องคอ และคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่น พร้อมตัดเสียงรบกวนได้ดี เหมาะสำหรับนำไปใช้ออกกำลังกาย
  • เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 2.4Ghz ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไกลเกิน 10 เมตร
  • คุณภาพเสียงดี ตามสไตล์ JBL ฟังเพลงได้ทุกแนว คมชัดทุกย่านเสียง
  • ควบคุมการใช้งานได้ง่าย เพียงกดปุ่มบนสายคล้องคอเท่านั้น

จุดควรพิจารณา:
  • ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้น้อย หากพูดคุยสื่อสาร จะทำให้ผู้ฟังได้ยินเสียงไม่ชัดเท่าที่ควร
  • ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มค่อนข้างนานถึง 2 ชั่วโมง

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

6.       หูฟัง Lenovo TH10

หูฟัง Lenovo TH10

หูฟัง Lenovo TH10 เป็นชนิดหูฟังแบบครอบหู มีขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมการเชื่อมต่อแบบ TWS ทำให้ใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยมีระบบเสียงแบบ 3D ทำให้เสียงคมชัดรอบทิศทาง และทุกย่านเสียง เหมาะสำหรับนำไปใช้งานฟังเพลงได้ทุกแนว มาพร้อมกับไมโครโฟนภายในตัว มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ทำให้เสียงพูดมีความคมชัด ไม่เกิดอาการเสียงแทรกซ้อนเข้าไมโครโฟน นอกจากนี้แบตเตอรี่ถึกทน โดยใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง คุ้มค่าเกินราคามากเลยทีเดียว

ยี่ห้อ/รุ่น Lenovo TH10
น้ำหนัก ไม่ระบุ
รูปแบบเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • Lenovo TH10 เป็นทั้งหูฟังครอบหู และหูฟังตัดเสียงรบกวนได้ดี เหมาะสำหรับใช้ฟังเพลงบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เพราะเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
  • ระบบเสียงคุณภาพดีเกินราคา โดยมีระบบ 3D ทำให้ขับเสียงคมชัดทุกย่านเสียง ได้ยินรอบทิศทาง
  • มีคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนภายนอกทั้งหูฟังและไมโครโฟน
  • ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม

จุดควรพิจารณา
  • เนื่องจากไมโครโฟนอยู่ภายในตัว อาจทำให้ระดับเสียงพูดของคุณเบากว่ารุ่นที่มีไมโครโฟนยื่นออกมา
  • ไม่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ ไม่เหมาะนำไปใช้ออกกำลังกาย

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

7.       หูฟัง Jabra Elite 2

หูฟัง Jabra Elite 2

หูฟัง Jabra Elite 2 ดีไซน์ล้ำสมัย มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก มาพร้อมกับเสียงเบสหนักแน่น และยังสามารถปรับ EQ ได้ด้วยการโหลด Application Jabra Sound+ เพิ่มได้ทั้งเสียงเบส เสียงแหลม เสียงร้อง และใช้ฟังก์ชันพิเศษอย่าง Noise-isolating สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี มีไมโครโฟน 2 ตัว สามารถจับเสียงพูดได้ชัดเจน และยังมีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 ทั้งนี้สามารถเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2 ทุกการเชื่อมต่อมีความเสถียรอย่างมาก

ยี่ห้อ/รุ่น Jabra Elite 2
น้ำหนัก ไม่ระบุ
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟังตัดเสียงรบกวน Jabra Elite 2 ดีไซน์ล้ำสมัย มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก พร้อมคุณภาพเสียงดีทุกย่านเสียง
  • แอปพลิเคชัน Jabra Sound+ สามารถปรับโทนเสียงต่าง ๆ เช่น ทั้งเสียงเบส เสียงแหลม เสียงร้อง
  • มีฟังก์ชันพิเศษอย่าง Noise-isolating สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
  • มีไมโครโฟนทั้ง 2 ข้าง ทำให้จับเสียงพูดได้คมชัด และไม่เกิดเสียงแทรกซ้อน

จุดควรพิจารณา:
  • เนื่องจากมีขนาดเล็ก และน้ำหนักค่อนข้างเบา ต้องระมัดระวังในการใช้งาน อาจทำให้หล่นแล้วสูญหายได้
  • ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มค่อนข้างนานถึง 2 ชั่วโมง

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

8.       หูฟัง Kawa F10

หูฟัง Kawa F10

หูฟังตัดเสียงรบกวน Kawa F10 มีดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นหูฟังแบบข้างเดียวและไร้สาย รวมถึงเป็นหูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับนำไปใช้ขณะประชุม ขับรถ หรือออกกำลังกาย เป็นต้น มาพร้อมกับระบบสุดล้ำอย่าง Ai ที่เข้ามาช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เสียงพูดขณะประชุมมีความคมชัด และย่านเสียงอื่น ๆ มีมิติ ไม่หนัก ไม่แหลมจนเกินไป นอกจากนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ ซึ่งเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 จึงมีความเสถียรในการใช้งาน

ยี่ห้อ/รุ่น Kawa F10
น้ำหนัก 19 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟัง Kawa F10 ดีไซน์แปลกใหม่ เป็นแบบหูฟังข้างเดียว สามารถนำไปใช้ได้ทั้งหูซ้ายและหูขวา
  • คุณภาพเสียงดี ตัดเสียงรบกวนได้ดี เหมาะนำไปใช้ประชุม ออกกำลังกาย และขับรถ
  • มีก้านไมโครโฟน พร้อมตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ไม่มีเสียงแทรกซ้อนขณะพูด
  • สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ ด้วยการเชื่อม Bluetooth 5.0

จุดควรพิจารณา:
  • เป็นหูฟังสำหรับพูดคุยสนทนา ซึ่งหากนำไปดูหนัง หรือเล่นเกม คุณภาพเสียงอาจดีไม่เท่าหูฟังยี่ห้ออื่น
  • หากนำไปเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ iOS ไม่เสถียรเท่าที่ควร

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

9.       หูฟัง EDIFIER W820 NB

หูฟัง EDIFIER W820 NB

หูฟัง EDIFIER W820 NB เป็นหูฟังครอบหูชนิดไร้สาย โดยมีฟองน้ำครอบหูที่นุ่ม สามารถสวมใส่ใช้งานได้นาน ไม่เกิดอาการเจ็บหู ในส่วนคุณภาพเสียงจัดเต็มเกินราคา ซึ่งมีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี และมีเทคโนโลยี Dynamic ช่วยให้แยกเสียงซ้าย-ขวาได้ชัดเจน พร้อมทั้งขับย่านเสียงได้คมชัด ไม่ว่าจะเสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม เหมาะสำหรับนำไปใช้งานเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง นอกจากนี้มีเทคโนโลยี DNN ช่วยตัดเสียงรบกวนขณะพูด เพื่อทำให้เสียงพูดมีความคมชัดมากที่สุด

ยี่ห้อ/รุ่น EDIFIER W820 NB
น้ำหนัก 220 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 50 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟัง EDIFIER W820 NB มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูทันสมัย มาพร้อมฟองน้ำครอบหูแบบนุ่ม ทำให้สวมใส่ใช้งานได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ไม่เจ็บหู
  • มีเทคโนโลยี Dynamic เพื่อขับเสียงให้มีคุณภาพทุกย่านเสียง และช่วยให้แยกเสียงซ้าย-ขวาได้ชัดเจน
  • DNN ช่วยตัดเสียงรบกวนขณะพูด ทำให้เสียงพูดมีความคมชัด สามารถนำไปประชุมออนไลน์ได้
  • แบตเตอรี่ถึกทน ใช้งานได้นานถึง 60 ชั่วโมง

จุดควรพิจารณา:
  • ไมโครโฟนภายในตัว อาจทำให้ระดับเสียงพูดของคุณเบากว่ารุ่นที่มีไมโครโฟนยื่นออกมา
  • ไม่มีคุณสมบัติป้องน้ำและเหงื่อ ไม่สามารถนำไปใช้ออกกำลังกายได้

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

10.   หูฟัง Sony รุ่น WH-1000XM5

หูฟัง Sony รุ่น WH-1000XM5

สำหรับอันดับสุดท้ายเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนระดับเรือธง นั้นก็คือ หูฟัง Sony รุ่น WH-1000XM5 ดีไซน์ล้ำสมัย สวยงาม มีกระเป๋าสำหรับจัดเก็บหูฟัง และเป็นชนิดหูฟังไร้สาย มาพร้อมการตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Multi Noise Sensor และมีระบบ AI ที่ช่วยแยกเสียงต่าง ๆ ให้มีความคมชัด โดยไร้เสียงรบกวนขณะพูดและฟังเพลง ดูหนัง เป็นต้น นอกจากนี้ตัวหูฟังมี Sensor ว่าหูฟังอยู่ที่ใบหูของคุณหรือไม่? หากหูฟังหลุดออกจากหู เพลงจะหยุดทันที และเมื่อสวมใส่อีกครั้ง จะทำให้เพลงกลับมาเล่นอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีฟังก์ชันสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครอย่าง Adaptive Sound Control ช่วยปรับเสียงหูฟังให้เข้ากับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหมาะสมที่สุดให้คุณ อีกทั้งยังสามารถสั่งการผ่านการแตะที่ตัวหูฟังเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดเล่นเพลง เพิ่ม/ลดเสียง ข้ามเพลง เป็นต้น

ยี่ห้อ/รุ่น Sony รุ่น WH-1000XM5
น้ำหนัก 250 กรัม
รูปแบบเชื่อมต่อ AUX/Bluetooth
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง

จุดเด่น:
  • หูฟังไร้สาย Sony รุ่น WH-1000XM5 ระดับเรือธง ดีไซน์สวยงาม ล้ำสมัย ที่ครอบหูนุ่ม มาพร้อมกับกระเป๋าสำหรับจัดเก็บหูฟัง
  • เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Multi Noise Sensor ทำงานพร้อมกับ AI ทั้งตัดเสียงรบกวน และแยกเสียงให้คุณอัตโนมัติ
  • Adaptive Sound Control ปรับเสียงให้เข้ากับสไตล์ของคุณ เพื่อมอบประสบการณ์ในการฟังให้ดีที่สุด
  • มี Sensor ตรวจจับหูฟังที่บริเวณใบหู หากหูฟังหลุด เพลงจะหยุดเล่นทันที

จุดควรพิจารณา:
  • เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนระดับเรือธง ฟังก์ชันครบ จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่คุณภาพที่ได้รับคุ้มค่าอย่างมาก
  • ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างนานถึง5 ชั่วโมง

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

หูฟัง

วิธีเลือกซื้อ ฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

1.       พิจารณาจากรูปแบบของหูฟัง

โดยปกติแล้วหูฟังจะมี 2 รูปแบบ คือ In-Ear จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด และจะมีจุกยางที่หูฟัง เพื่อเพิ่มความกระชับในการสวมใส่ และใช้งานได้นาน โดยไม่เกิดอาการเจ็บหู ส่วนหูฟังแบบ Headphone หรือหูฟังครอบหู จะมีขนาดใหญ่ มีฟองน้ำนุ่ม เพื่อทำให้สวมใส่ได้นาน ไม่เกิดอาการเจ็บหู แต่หากใส่นาน ๆ จะเกิดความรู้สึกร้อนที่บริเวณหู เป็นต้น ดังนั้นคุณควรเลือกหูฟังตามรูปแบบที่ต้องการ และตอบโจทย์แก่ตนเองมากที่สุด

2.       เลือกจากน้ำหนักของหูฟัง

แน่นอนว่าหูฟังแต่ละยี่ห้อ แต่ละรูปแบบมีขนาดและน้ำหนักแตกต่างกัน ยิ่งหูฟังน้ำหนักเยอะ จะส่งผลต่อการสวมใส่ อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้า ปวดใบหู หรือเจ็บได้ ซึ่งคุณควรพิจารณาหูฟังจากน้ำหนัก เพื่อทำให้คุณสวมใส่ได้นาน และคุ้มค่าในการใช้งาน

3.       ระบบตัดเสียงรบกวน

สำหรับบทความของเรา เราได้นำ 10 หูฟังที่มีคุณสมบัติตัดเสียงรบกวน เพื่อให้คุณนำไปพิจารณาประกอบตัดสินใจได้ตามที่ต้องการ โดยแต่ละยี่ห้อ มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับขนาดของหูฟัง รูปแบบหูฟัง และระบบของหูฟัง เช่น หูฟัง In-Ear ขนาดเล็กกะทัดรัด จะมีระบบ Noise Canceling และคุณภาพเสียงคมชัด พร้อมนำไปเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนใส่นอนได้อีกด้วย ส่วนหูฟังครอบหู จะมีขนาดใหญ่ จะมีประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าแบบ In-Ear นั่นเอง

4.       ระยะการใช้งานของแบตเตอรี่

ในปัจจุบันหูฟังตัดเสียงรบกวน ส่วนใหญ่เป็นหูฟังชนิดไร้สาย ซึ่งการให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่จึงมีความสำคัญ เพื่อให้ใช้งานได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง แต่เราขอแนะนำ หูฟังที่สามารถใช้งานได้นานเกิน 20 ชั่วโมง หรือหูฟังที่มีกล่องชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่หูฟังให้ใช้งานได้นาน ๆ

5.       ฟังก์ชันเสริม

สำหรับฟังก์ชันเสริม ต้องพิจารณาจากสไตล์การใช้งานของตนเอง หากคุณเป็นคนที่ฟังเพลงบ่อย ๆ หรือเน้นดู Social Media เพื่อดู Content Video ต่าง ๆ ควรเลือกฟังก์ชันที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก พร้อมทั้งปุ่มควบคุมบนตัวหูฟัง โดยอาจเป็นระบบสัมผัสที่หูฟัง เพื่อใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนเพลง ย้อนกลับเพลงเดิน และหยุดเล่นเพลงได้ เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การใช้งานได้คุ้มค่ามากที่สุด

หูฟัง

บทสรุปสำหรับเลือกซื้อ หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี

เราขอแนะนำ Soundpeats MAC เป็นหูฟังแบบ In-Ear มีดีไซน์ที่สวยงาม ขนาดกะทัดรัด เป็นหูฟังแบบไร้สาย และยังให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา ซึ่งเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนราคาถูก มีเสียงเบสแน่น เสียงโทนแหลมไม่บาดหู ฟังเพลงได้ทุกแนว และมีไมโครโฟนทั้งสองข้าง พร้อมคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เสียงพูดมีความชัดเจน เสียงไม่เพี้ยน และมีฟังก์ชันเสริม Touch-Sensitive เพียงสัมผัสหูฟัง เพื่อเล่น/หยุด และเปลี่ยนเพลงได้ง่าย ๆ ถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าเหมาะสมกับราคาอย่างมาก

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

ปวินญา

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

TopReviewThailand : รีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าขายดี
Logo
Enable registration in settings - general